อาชีพยามจัดเป็นอาชีพหนึ่งที่พบว่ามีปัญหากับการรับประทานยาเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะยามที่ต้องอยู่เวรตอนกลางคืน ดังนั้นเมื่อถามว่ายาที่รับประทานตอนกลางคืน
นั้นจะต้องรับประทานอย่างไร พบว่ายาที่แพทย์สั่งให้รับประทา นตอนก่อนนอนตอน
กลางคืน ส่วนใหญ่นั้นพบว่าเป็นการสั่งเพื่อลดอาการข้างเคียงจากยา เช่น ยาที่รับประทาน
แล้วทําให้ง่วงซึม จึงให้รับประทานก่อนนอนเพราะฉะนั้นยาที่ทําให้เกิดอาการง่วงซึมนั้น ถ้า
รับประทานตอนเริ่มทํางานก็อาจจะทําให้เป็นปัญหาในการทํางานได้ เช่น การทํางานกับ
เครื่องจักร การขับขี่ยานพาหนะ หรือโดยเฉพาะอาชีพยามนั้นอาจทําให้หลับยามได้ เป็น
ต้น เพราะฉะนั้นถ้ายาตัวใดที่ให้รับประทานก่อนนอนเพื่อลดอาการข้างเคียงจากยาที่อาจ
เกิดกับผู้ป่วย ยากลุ่มนั้นควรรับประทานก่อนจะนอนหลับจริงๆ ตามแบบแผนแต่ละบุคคล
หากยามออกเวรตอนเช้า ก็อาจปรั บเวลายาก่อนนอนมารับประทานตอนเช้า สําหรับ
ประเด็นอื่นก็อาจจะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาของยาหรือเพื่อเพิ่มความร่วมมือใน
การใช้ยาของผู้ป่วย ยากลุ่มนี้อาจจําเป็นต้องกําหนดเวลารับประทานที่ชัดเจนของการ
รับประทานยาก่อนนอน เช่น หนึ่งทุ่มหรือสองทุ่ม เป็นต้น กล่าวโด ยสรุป หากรับประทาน
ก่อนนอนวันละครั้ง ให้ถามแพทย์ หรือเภสัชกรว่าเหตุผลคืออะไร เช่น ทําให้ง่วงนอน ก็
ปรับตามเวลาที่ว่า หรือเป็นเวลาที่เหมาะสําหรับรับประทานยาประเภทนั้น ๆ ก็
รับประทานตามเวลานั้น แต่หากให้วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร และก่อนนอน เช่นนี้ไม่น่า
เกี่ยวข้องกับ การที่ยาทําให้ง่วง สามารถกําหนดตารางเวลารับประทานเป็นทุก 6 ชั่วโมงได้
และปรับให้สอดคล้องกับความสะดวก
สําหรับประเด็นในเรื่องของการรับประทานยาก่อนและหลังอาหารก็พบว่าจะ
คล้ายกับยาที่รับประทานก่อนนอนคือยาที่แพทย์สั่งให้รับประทานก่อนและหลังอาหาร
เพราะว่าเพื่อลดอาการข้างเคียงจากยาหรือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ยกตัวอย่าง
ยาลดน้ําตาลในเลือด อาจมีทั้งก่อน และหลังอาหาร เช่น กลัยพิไซด์ ให้รับประทานก่อน
อาหารเพื่อหวังผลให้ยาไปลดระดับน้ําตาลหลังรับประทานอาหาร หรือยาเมทฟอร์มิน ให้
รับประทานหลังอาหารเพื่อลดอาการข้างเคียงจากยา เป็นต้น ดังนั้นยาในกลุ่มดังกล่าวควร
ใช้มื้ออาหารมาเป็นข้อกําหนดในการรับประทานยาจะดีที่สุด แต่หากไม่สามารถใช้มื้อ
อาหารมากําหนดระยะเวลารับประทานได้สม่ําเสมอ หรือชัดเจน อาจกำหนดระยะเวลา
ทุก 6 หรือ 8 ชั่วโมงได้ แทนการรับประทานยาวันละ 4 หรือ 3 ครั้งตามลำดับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น