มีความจําเป็นต้องบอกหมอทั้งสองกรณี ในกรณีแรกหากตั้งครรภ์ จะต้องแจ้งให้
แพทย์หรือเภสัชกร ทราบทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาล สถานีอนามัย สถานพยาบาลต่าง ๆ
หรือไปซื้อยารับประทานเอง เนื่องจากยาบางชนิดที่ใช้ในการรักษาโรคหรือรักษาอาการ
ทั่วไปนั้นอาจมีผลกับลูกน้อยในครรภ์ได้ทุกระยะการตั้งครรภ์ โดยยาบางชนิดอาจรุนแรงถึง
ขั้นทําให้ลูกน้อยเกิดความพิการได้
อีกกรณีคือ ถ้าวางแผนที่จะตั้งครรภ์ก็มีความจําเป็นที่ต้องบอกแพทย์และเภสัช
กรเช่นเดียวกันเนื่องจาก ยาบางชนิด เช่น ยารักษาสิว (isotretinoin) อาจมีการสะสมอยู่
ในร่างกายเป็นระยะเวลานาน จําเป็นต้องหยุดยาล่วงหน้าก่อนที่จะตั้งครรภ์ หรือในกรณีที่
ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีความจําเป็นต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง เช่น ยาลดความดันโลหิต
ยาละลายลิ่มเลือด เป็นต้น แพทย์ ต้องมีการวางแผนในการรักษา ร่วมกับผู้ป่วยอย่าง
ต่อเนื่อง แพทย์จะพิจารณาว่า จําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงยาหรือหยุดยาหรือไม่ เพื่อป้องกัน
ทารกในครรภ์ไม่ให้เกิดความผิดปกติหรือพิการได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น